สาระน่ารู้ » Part of speech หน้าที่ของคำ ภาษาอังกฤษ ส่วนประกอบของประโยค อ่าน เขียน

Part of speech หน้าที่ของคำ ภาษาอังกฤษ ส่วนประกอบของประโยค อ่าน เขียน

10 มีนาคม 2019
8017   0

Part of speech ส่วนของคำ หน้าที่ของคำต่างๆ ที่ประกอบอยู่ในประโยค เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษที่ต้องรู้ เวลาเปิดพจนานุกรม (dictionary) เพื่อค้นหาความหมายของคำศัพท์ ควรต้องดูหน้าที่ของคำ (part of speech) ด้วย ว่าคำศัพท์นั้นทำหน้าที่ หรือมี part of speech เป็นอะไรได้บ้าง เพื่อจะได้นำมาประกอบประโยค สร้างประโยคภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องครับ เพราะหลายๆ คำในภาษาอังกฤษ ที่ให้ความหมายต่างกันเมื่อทำหน้าที่ part of speech ต่างกัน ซึ่งถ้าเรารู้ว่าคำที่อยู่ส่วนนั้นของประโยคทำหน้าที่อะไร ก็จะเลือกคำแปลได้อย่างถูกต้อง และเข้าใจประโยคภาษาอังกฤษ รวมถึงเขียนประโยคภาษาอังกฤษเองได้อย่างถูกต้องครับ

ประเภทของ Part of speech  ในภาษาอังกฤษ ที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษต้องรู้จัก มีดังต่อไปนี้

1. Noun คำนาม

คำที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งต่างๆ เช่น
Tony โทนี่ (ชื่อคน)
man ผู้ชาย (คน)
table โต๊ะ (สิ่งของ)
ฺBangkok กรุงเทพ (สถานที่)
cat แมว (สัตว์)
kindness ความกรุณา (คุณสมบัติ)

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
It is your kindness. = มันเป็นความกรุณาของคุณ
Tony is my name. = โทนี่คือชื่อของฉัน

เรียนเรื่องคำนามและวิธีการใช้แบบละเอียด คลิก >> Noun คำนาม
เรียนเรื่องการใช้คำนำหน้าคำนาม คลิก >> การใช้ a an the

2. Pronoun คำสรรพนาม

คำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อไม่ต้องพูดคำนามนั้นซ้ำไปซ้ำมา เช่น
I, you, we, they, he, she, it

เรียนเรื่องคำสรรพนามและวิธีการใช้แบบละเอียด คลิก >> Pronoun คำสรรพนาม

3. Adjective คำคุณศัพท์

คำที่ทำหน้าที่ขยายคำนามและสรรพนาม เพื่อให้ได้ใจความชัดเจนมากขึ้น เช่น
white = ขาว
black = ดำ
small = เล็ก
big = ใหญ่
good = ดี
bad = เลว

เรียนเรื่องคำคุณศัพท์และวิธีการใช้แบบละเอียด คลิก >> Adjective คำคุณศัพท์

4. Verb คำกริยา

คำที่ใช้แสดงการกระทำของคำนาม (หรือสรรพนาม) เช่น
buy = ซื้อ
know = รู้, รู้จัก
like = ชอบ
want = ต้องการ
see = เห็น
sell = ขาย
go = ไป
walk = เดิน
run = วิ่ง
come = มา
sit = นั่ง
smile = ยิ้ม

เรียนเรื่องคำกริยาและวิธีการใช้แบบละเอียด คลิก >> Verb คำกริยา

5. Preposition คำบุพบท

คำที่ใช้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง Noun (หรือ Pronoun) กับคำอื่นๆ ในประโยค เช่น
He lays his book on the table. (แสดงสถานที่)
= เขาวางหนังสือบนโต๊ะ

He will go with me. (แสดงสัมพันธ์ สรรพนามกับกริยา)
= เขาจะไปกับผม

He came here before me. (แสดงเวลา)
= เขามาที่นี่ก่อนผม

6. Adverb กริยาวิเศษณ์

คำที่ใช้ขยายคำกริยา คำคุณศัพท์ และขยายกริยาวิเศษณ์ด้วยกันเอง มักจะลงท้ายด้วย ly แต่ไม่ลงท้ายด้วย ly ก็มีเช่นกันครับ เช่น

He learns hard everyday.
= เขาเรียนหนักทุกวัน (ขยาย learn) *ทำไม learn ในประโยคนี้จึงเติม s สามารถอ่านทำความเข้าใจได้ที่เรื่อง คำกริยา

= I walk very carefully.
ฉันเดินอย่างระมัดระวังมาก

เรียนเรื่องกริยาวิเศษณ์และวิธีการใช้แบบละเอียด คลิก >> Adverb กริยาวิเศษณ์

7. Conjunction คำสันธาน

คำที่ใช้เชื่อมประโยค วลี กริยา เข้าด้วยกัน โดยทั่วไปมักจะเชื่อมคำชนิดเดียวกัน เช่น

Chris and Lookkade are friends. (เชื่อมนามกับนาม)
= คริสกับลูกเกดเป็นเพื่อนกัน

You and I go to school everyday. (สรรพนามกับสรรพนาม)
= คุณและฉันไปโรงเรียนทุกวัน

He likes coffee as well as tea (เชื่อมนามกับนาม)
= เขาชอบกาแฟเช่นเดียวกับชา

เรียนเรื่องคำสันธานและวิธีการใช้แบบละเอียด คลิก >> Conjunction คำสันธาน

8. Interjection คำอุทาน

คำอุทานแสดงอารมณ์ ความรู้สึก เช่น

Oh! Wow! Ah!

เรียนเรื่องคำอุทานในภาษาอังกฤษแบบละเอียด คลิก >> Interjection

แหล่งที่มา www.tonamorn.com